Last updated: 21 มี.ค. 2567 | 4224 จำนวนผู้เข้าชม |
ใคร ๆ ก็ว่า การนวดคือยาวิเศษที่สามารถบรรเทาทุกข์จากสิ่งร้าย ๆ ที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ ไม่ว่าจะอาการเมื่อย ปวด คัดยอก ล้า หรือเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แค่นวดก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์
จริงอยู่ที่การนวดเป็นตัวช่วยชั้นยอดในเรื่องการผ่อนคลาย ทั้งจิตใจและร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่อนคลายด้วยวิธีนี้ได้เสมอไป หากคุณมีอาการห้ามนวดแล้วดันทุรังไปนวด ผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่สวยอย่างที่คิด เพราะการนวดที่ว่าเป็นยาวิเศษอาจกลายเป็นยาพิษอย่างไม่รู้ตัว
ไข้ขึ้น ไม่สบาย ถ้าอยากหาย ห้ามนวด การนวดนั้นช่วยให้สบายตัวขึ้น แต่การนวดไม่ใช่ยารักษาโรคและไม่สามารถทำให้หายไข้ได้ ยิ่งคนป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแล้วอยากจะนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ บอกเลยว่าเข้าใจผิดเต็มประตู การนวดไม่สามารถบรรเทาอาการเมื่อยกล้ามเนื้อที่มาจากไข้หวัดได้ รังแต่จะทำให้ป่วยหนักกว่าเดิมอีก
คนป่วยที่มีอุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ห้ามนวดเป็นอันขาด เพราะช่วงนั้นร่างกายจะอ่อนแอมาก ๆ หากมีการไปกดจุดหรือกล้ามเนื้อถูกกระทบกระเทือนจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง
กล้ามเนื้ออักเสบ ถ้าไม่อยากเจ็บหนักต้องพักนวด อีกหนึ่งความเข้าใจผิด ๆ ยอดฮิตที่คนติดนวดหลงเชื่อกันมานานก็คือ ยิ่งปวดกล้ามเนื้อ ยิ่งนวด ยิ่งช่วย คุณต้องดูก่อนว่าสาเหตุที่คุณปวดเมื่อยมาจากอะไร ถ้าคุณถึงขั้นกล้ามเนื้ออักเสบ การนวดก็ไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ได้
กล้ามเนื้ออักเสบจะหายได้ก็ต่อเมื่อได้รับการพักผ่อน ไม่ใช่การนวด ๆ คลึง ๆ ให้กล้ามเนื้อต้องระบมขึ้นอีก หากคุณไปกดจุด จับเส้นบริเวณที่อักเสบมันจะยิ่งบวมแดงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงอาจทำให้เกิดไข้ตามมาอีกด้วย
ในวันแดงเดือด ขอเตือนผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน ห้ามนวด คุณผู้หญิงที่อยู่ในช่วงรอบเดือนแล้วเกิดอยากจะนวด ไม่ว่าจะเป็นเพราะอาการปวดท้อง ครั่นเนื้อเมื่อยตัว หรือขยับเขยื้อนก็ไม่สบายกาย ขอให้อดทนไว้ก่อนจนกว่าประจำเดือนจะหมด เนื่องจากการนวดจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น จึงอาจทำให้ร่างกายเกิดความแปรปรวนหรือขับเลือดเสียออกมาผิดปกติ ส่งผลให้ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น แถมยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคไข้ทับระดูอีกด้วย
สตรีมีครรภ์อายุไม่ถึง 3 เดือน เลื่อนนัดนวดออกไปก่อนอาการเมื่อยไหล่ ปวดหลัง ยอกสะโพกคงเป็นปัญหาโลกแตกของบรรดาแม่ ๆ ในช่วงตั้งครรภ์จนอยากจะไปนวดคลายกล้ามเนื้อให้สบายตัว แต่ขอเตือนไว้ตรงนี้เลยนะว่าคุณแม่ท้องอ่อนที่มีอายุครรภ์ไม่ถึง 3 เดือนควรเลื่อนนัดนวดออกไปก่อน เพราะมีโอกาสเสี่ยงแท้งสูงมาก
ช่วงนี้แนะนำให้คลายเมื่อยด้วยการปรับท่าทางต่าง ๆ ทั้งท่าเดิน ท่านั่ง และท่านอนให้ถูกต้องเหมาะสม รวมถึงการออกกำลังกายยืดเส้นเบา ๆ อย่างโยคะก็ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ไม่น้อยเลย
ความดันสูงเกิน 140 หากไปนวดระวังความดันพุ่งปรี๊ดทะลุเพดาน ไม่ว่าจะคุณจะเป็นผู้ป่วยโรคความดันสูงหรือไม่ก็ตาม หากคุณมีความดันสูงเกิน 140 มิลลิเมตรปรอท มีอัตราการเต้นหัวใจมากกว่า 24 ครั้ง และมีชีพจรมากกว่า 80 ครั้งขึ้นไป ต้องขอความร่วมมือให้อยู่ห่างการนวดด่วน ๆ เนื่องจากระบบไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้นจากการนวดจะทำให้ความดันสูงขึ้นไปอีก แถมความร้อนในร่างกายยังสูงขึ้นด้วย ถ้าใครร่างกายไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้เป็นไข้ได้ง่าย ๆ
ใครเป็นเบาหวาน ขอวานอย่าเพิ่งนวด ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีไขมันอุดตันอยู่ในหลอดเลือดจำนวนมาก ทำให้มีลิ่มเลือดลอยอยู่ในหลอดเลือดไม่น้อยโดยเฉพาะบริเวณน่องขา หากหมอนวดกดจุดที่น่องแรงเกินไปอาจทำให้ลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดได้ ซึ่งมันมีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นอันตรายต่ออวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ซ้ำร้ายกว่านั้นอาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิต
ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังชนิดติดต่อ จ่อแพร่เชื้อ ห้ามนวด คนที่เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังทุกชนิดที่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคหัดเยอรมัน และโรคงูสวัด เป็นต้น ขอความร่วมมืองดนวดจนกว่าจะหายดี ในกรณีนี้การนวดอาจไม่ได้ส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วยโดยตรง แต่เนื่องจากการนวดต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะยานวด หรืออุปกรณ์นวดต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นได้
คนที่เป็นโรคฮีโมฟีเลีย ถึงเลือดจะไหลไม่หยุด แต่ต้องหยุดนวดก่อน ผู้ที่เป็นโรคฮีโมฟีเลีย (โรคเลือดออกง่ายหยุดยาก) หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดควรเลี่ยงการนวดอย่างที่สุด เพราะการนวดจะเป็นการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น บางครั้งการนวดเคล้นคลึงที่เกินพอดีก็อาจทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ ช้ำเลือด ถ้าใครมีเลือดออกมากก็มีโอกาสเสี่ยงทำให้ช็อคได้
ยิ่งนวด ยิ่งเซ็ง มะเร็งยิ่งแพร่ จริงอยู่ว่าผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อตึงจากโรคมะเร็งเมื่อได้รับการนวดจะรู้สึกสบายตัวขึ้น ส่งผลให้นอนหลับสนิท และเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็มีภูมิคุ้มกันไปต่อสู้กับโรคร้าย แต่โรคมะเร็งมีหลายระยะ และไม่ใช่ทุกระยะที่สามารถนวดได้
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกชนิด ถ้าอยู่ในระยะแพร่กระจายแล้ว ห้ามนวดเด็ดขาด เพราะการนวดจะเป็นการกระตุ้นให้เชื้อมะเร็งกระจายตัวเข้าสู่เส้นเลือด น้ำเหลือง และอวัยวะอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีอาการรุนแรงและทรุดหนักไวกว่าเดิม
ขอบคุณบทความจาก : cr.today.line.me
5 ก.ย. 2567
26 ส.ค. 2567
27 มี.ค. 2566