ปวดตาจากการจ้องคอม ระวัง! ภาวะ CVS

Last updated: 3 เม.ย 2567  |  376 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปวดตาจากการจ้องคอม ระวัง! ภาวะ CVS

เชื่อว่าคนยุคนี้ 80% กำลังมีปัญหาเรื่องสายตาที่ต้องใช้ในการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ เพื่อใช้ทำงานเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดอาการปวดตา เมื่อยตา ตาล้า ตามัว ตาแห้ง ซึ่งอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ถึงอาการปวดหัว และปวดหลังเรื้อรัง

โรค CVS หรือ Computer Vision Syndrome คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาในการใช้งานและจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง มีการศึกษาพบว่าประมาณ 90% ของผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน จะมีอาการ Computer Vision Syndrome อย่างใดอย่างหนึ่งหรืออาจเป็นร่วมกันจนส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตในแต่ละวัน

สาเหตุของการปวดตาจากการจ้องคอม

  • การเพ่งสายตาไปที่คอมพิวเตอร์หรือตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่างเป็นเวลานาน ๆ
  • แสงที่จ้าเกินไปของหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อกระทบกับดวงตานาน ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดตาได้
  • แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม ส่งผลให้สายตาเสีย
  • สาเหตุมาจากตัวอักษรที่ไม่มีความคมชัดในจอคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลต่อการโฟกัสของคนใช้งานคอม ก็อาจจะทำให้ผู้ใช้งานต้องเพ่งเล็งใช้ดวงตาหนักเกินไป เป็นสาเหตุของดวงตาที่เกิดอาการเมื่อยล้าได้
  • ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะทำให้ปวดตาแล้ว ยังอาจมีอาการปวดหลัง ปวดบ่า ไหล่ ตามมาอีกด้วย
  • ระดับสายตาในการจ้องมองคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ

อาการที่บอกว่ามีภาวะ CVS

  • ตามีอาการเมื่อยล้า
  • ตาแห้ง แสบตา และมีอาการระคายเคือง
  • ตาไม่สามารถที่จะสู้แสงได้หรือสู้แสงได้น้อยลง
  • มีลักษณะอาการตาพร่ามัว
  • ปวดศีรษะ
  • โฟกัสได้ช้าลง

วิธีแก้อาการปวดตาจากการจ้องคอมเป็นเวลานาน

  • จัดท่านั่งให้สมดุลกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงาน ควรจะปรับเก้าอี้ และจัดให้มีเบาะรองนั่ง ที่จะช่วยจัดท่านั่งในการทำงานได้ถูกต้อง จะช่วยลดอาการปวดตาได้มากขึ้น
  • ควรจับเวลาในการใช้งานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอทีที่มีแสงสว่างผ่านหน้าจอ ไม่ควรที่จะใช้เวลานานมากกว่า 30 นาที เมื่อถึงเวลาก็ควรหยุดพักและใช้สายตามองไปทางอื่น โดยมองออกไปในทิศทางที่ไกล เพื่อผ่อนคลายสายตา ทำให้ตารู้สึกได้ผ่อนคลายและพยายามกระพริบตาให้ดีมากยิ่งขึ้นก็สามารถที่จะช่วยลดอาการปวดตาได้
  • ลองหาแว่นตาที่ช่วยกรองแสงคอมพิวเตอร์ได้ เพราะสามารถช่วยลดแสงที่ส่องเข้าสู่ดวงตา ทำให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น
  • ลดระดับแสงสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงให้พอดีกับการใช้งาน
  • เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็อาจจะทำให้รู้สึกมีอาการตาแห้งเกิดขึ้นได้ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ก็สามารถที่จะพกน้ำตาเทียมไปหยอดตา เพื่อรักษาอาการแสบตาหรืออาการตาแห้งได้นั่นเอง
  • การผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตา ด้วยการนวดผ่อนคลายกดตรงที่ดวงตาเบาๆ ก็สามารถที่จะบรรเทาอาการได้การประคบเย็นในเบื้องต้นสามารถที่จะลดอาการปวดตาและการประคบน้ำอุ่นในระยะหลังเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ก็จะทำให้ดวงตาเกิดความผ่อนคลายได้เช่นกัน

คำแนะนำการทานผลไม้

  • Vitamin A ช่วยเรื่องสายตา กระจกตาใส จอประสาทตา ลดการเกิดต้อกระจก
  • Vitamin E เพิ่ม Collagen ของกระจกตา และเยื่อบุตาขาวชั้นใน ลดการเกิดต้อกระจก
  • Vitamin C ลดความเครียดของเซลล์ลูกตา (Antioxidant)
  • Vitamin B6,  B9,  B12  ลดการอักเสบของจุดรับภาพในจอประสาทตา
  • ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ลดการอักเสบของจุดรับภาพในจอประสาทตา
  • Omega 3(โอเมก้า 3) ลดการอักเสบของเซลล์ตา  และลดการเกิดเบาหวานขึ้นตาเร็วขึ้น เป็นต้น

 

 

ขอบคุณบทความจาก : https://allwellhealthcare.com/eyestrain/
https://www.bangkokhospital.com/content/computer-vision-syndrome

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้